คุณเตรียมพร้อมแค่ไหน??
สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยปัจจุบัน ส่งผลกับระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (จริงๆ) โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหลายๆแห่ง ท่วมสูงเป็นเมตร สิ่งที่หลีกเลี่ยงอย่างไม่ได้จริงๆก็คือ เครื่องจักรกล และหุ่นยนต์ในสายการผลิตต่างๆ เสียหายอย่างน่าจะหลีกเลี่ยงได้ ถ้ามีการแจ้งเตือนผู้ประกอบการล่วงหน้าเร็วกว่านี้หน่อย เพราะน้ำท่วม ยังไงก็ไม่ใช่สึนามิ ที่ภายในชั่วโมงสองชั่วโมงน้ำจะซัดถล่มในพริบตา ผลจากการที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนิคมใหญ่ๆ และสร้างรายได้ให้ประเทศมากมายจมบาดาลอยู่ใต้น้ำ เป็นเวลาไม่น่าจะต่ำกว่าสามเดือน โรงงานต่างๆถึงจะกลับมาเริ่มเดินเครื่อง และทำงานได้ตามปกติ ช่วงระยะเวลาสุญญากาศระหว่างนี้ แรงงานไทยเอง ก็อยู่ในสถานะถูกลอยแพ บางโรงงานที่ใจดี ดูแลสวัสดิการพนักงานดี แรงงานก็โชคดีไป ไม่ตกงาน มีเงินชดเชย ส่วนใครที่เจอโรงงานที่ทุนน้อยหน่อย ก็ต้องทำใจ หางานอื่นทำระหว่างรอน้ำลดได้เลย ระหว่างนี้ ผมขอแนะนำให้ใช้สิทธิประกันสังคมของท่านให้เต็มที่ ไปกรอกรายละเอียดที่แรงงานจังหวัดที่ใกล้ และขอรับเงินประกันกรณีว่างงานจากทางประกันสังคมซะ อย่างน้อยก็พอแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้บ้าง
นอกจากอุตสาหกรรมที่โดนผลกระทบเต็มๆแล้ว ภาคเกษตรกรรมก็โดนหนักไม่น้อยไปกว่า โดยเฉพาะ "ข้าว" ที่เป็นผลผลิตทางเกษตรอันดับหนึ่งของเรา เจออย่างนี้เข้าไปก็จอด เนื่องจากแหล่งผลิตข้าวเจ้าแหล่งใหญ่ของไทยส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัด ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ซึ่งจังหวัดที่เอ่ยมา ต่างก็โดนน้ำท่วมทั้งหมด ส่งผลกระทบไปกับพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ผักชนิดต่างๆ หรือแม้แต่ ไข่ไก่ เนื้อ หมู ไก่ ปลา ก็พลอยโดน เพราะฟาร์มต่างๆก็จมน้ำไปเช่นกันเท่านั้นยังไม่พอ ภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือ ธุรกิจท่องเที่ยว ปกติช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ธุรกิจท่องเที่ยวของทุกภูมิภาคในไทย จะเข้าสู่ฤดู High Season แล้ว เป็นช่วงเวลากอบโกยรายได้ด้านท่องเที่ยว ทั้งจากชาวต่างประเทศ หรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเอง แต่เมื่อโดนน้ำถล่มอย่างนี้ คนไทยเอง ก็คงหมดแรงที่จะเที่ยว ภาพที่เห็นชัดที่สุดก็คือ งานประเพณีลอยกระทงของจังหวัดใหญ่ๆต่างๆในปีนี้ ก็ต้องยกเลิก หรือลดความอลังการไปโดยปริยาย หรือแม้แต่งานใหญ่ปลายปีของเชียงใหม่ ที่อุตส่าห์เตรียมงานมาข้ามปีอย่าง งานราชพฤกษ์ ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย แม้จะเลื่อนเวลาการเปิดให้ประชาชนเข้าชมออกไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่า จนถึงปีใหม่แล้ว ประชาชนจะมีกำลังใจไปเที่ยวหรือเปล่า เท่านั้นยังไม่พอ ที่หนักที่สุด ภาพสนามบินดอนเมืองจมน้ำ ภาพเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ทั้งแอร์บัส และโบอิ้งโดนน้ำท่วมมิดถึงล้อหรือใต้ท้อง ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต หรือภาพข่าวต่างๆ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าคิดว่าฝรั่งมังค่าหรือชาวต่างชาติชาติอื่นๆจะฉลาดทุกคนและทุกชาตินะครับ ภาพเหล่านี้ ถึงกับทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกโปรแกรมการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกันเลยทีเดียวเชียว สาเหตุก็เพราะ มีชาวต่างชาติอีกมาก ที่ไม่รู้ว่าภาพที่เห็น คือสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นสนามบินรอง ไม่ใช่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินหลัก ถึงเวลากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลกรมประชาสัมพันธ์ หรือกระทรวงการต่างประเทศก็ตาม ต้องแอคชั่น ออกมาแจ้งให้นานาชาติทราบข้อเท็จจริง และอธิบายเขาไปว่า ส่วนไหนของไทย ที่ไม่ได้รับผลกระทบกับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา กลับมาสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมของไทย
เท่านั้นยังไม่พอ หลายๆเหตุการณ์วิกฤติในเมืองหลวงของไทย การคมนาคมสะดุด เรามักจะมีปัญหาใหญ่เสมอ วุ่นวายกับการแก้ปัญหาปลายเหตุ ไม่ว่าจะสมัยปิดสนามบิน จากการกระทำอันโง่เขลาของเหล่าสมุนสนธิและจำลองแห่งพันธมิตรเสื้อเหลือง นั่นก็ทำธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวเจ๊งไปครั้งหนึ่ง น่าแปลกที่สถานการณ์น้ำท่วมอย่างนี้ ถ้าเหล่าพันธมิตรทั้งหลายสามัคคี แข็งขัน และรวมพลังกันออกหน้าออกตาช่วยเป็นอาสาสมัครช่วยน้ำท่วม หรือร่วมกันบริจาคช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ บทบาทของม็อบก่อกวน สร้างปัญหาให้ประเทศของพันธมิตรเองภาพลักษณ์จะดีขึ้นทันตา แต่ก็ไม่ ไม่แม้แต่จะเห็นเงาของแกนนำออกมาทำหน้าที่แกนนำอาสา ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่นกันกับณัฐวุฒิ จตุพร และเสด็จพี่พร้อมพงศ์ ที่เก่งกล้าสามารถอาจหาญชาญชัยในยามบ้านเมืองสงบ กลับหายหน้าหายตาไม่แม้จะปรากฎว่าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว เพื่อจะช่วยเหลือ แบ่งเบาทุกข์ และคลี่คลายปัญหา ให้กับประชาชนหลักสิบล้าน ที่เลือกพรรคเสื้อแดงเข้ามาเป็นตัวแทนประเทศ ประชาชนบางคนยอมแม้แต่จะตัดสัมพันธ์กับเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบปี เพียงเพราะทัศนคติทางการเมืองไม่ตรงกับเขา ทั้งๆที่เพื่อนเขาไม่ใช่เหลืองหรือไม่ใช่แดงเลยแท้ๆ เทิดทูนสถาบันเสื้อแดง และเทคะแนนเสียงอย่างล้นหลามให้พรรคเสื้อแดง แต่อยากทราบว่า สิ่งที่คุณทุ่มเทกาย ใจ คะแนนเสียงให้เขา เขาทุ่มเท เพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ หรือแบ่งเบาทุกข์ หรือกระตือรือล้นที่จะทำให้ทุกข์ของชาวบ้านสลายหายไปสักนิดนึงไหม ไม่ว่าเหลืองหรือแดง สุดท้ายประชาชนก็เพียงแค่เบี้ยตัวหนึ่งสำหรับการเมืองเท่านั้น แต่ไม่ว่าบ้านเมือง เมืองหลวงจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ประเทศก็ต้องเดินหน้าต่อ เศรษฐกิจก็ยังต้องหมุนต่อ หากเราเกิดปัญหากับดอนเมือง สุวรรณภูมิ เราจะทำอย่างไร ผมเห็นทุกครั้งที่สนามบินเมืองหลวงมีปัญหา ยังไงก็หนีไม่พ้นสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งรันเวย์แข็งแกร่งสุดๆ (แข็งไม่แข็งในสมัยสงครามเวียดนามเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่อย่าง บี 52 ก็สามารถลงจอดที่นี่ได้สบายๆ) ระยะทางจากอู่ตะเภาถึงกรุงเทพฯใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง อีกทั้งยังใกล้ท่าเรือสัตหีบหรือแหลมฉบัง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการคมนาคมทางทะเลได้อีก และที่สำคัญ อู่ตะเภายังมีโรงซ่อมเครื่องบินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อีกด้วย เมื่ออู่ตะเภาเพียบพร้อมและเหมาะสมขนาดนี้ ผมยังไม่เห็นเลยว่า จะมีรัฐบาลไหน จริงจังและจริงใจพัฒนาอู่ตะเภาแบบจริงๆจังๆสักที น้อยที่สุดระยะทางจากถนนสาย 36 ถึงสนามบินที่ยังเป็นสองเลนส์อยู่ น่าจะอัพเกรดได้แล้ว เพราะจากกรุงเทพถึงถนนสาย 331 ไม่มีสัญญาณไฟแดงเลย แต่มาเสียก็อีตรงช่วงระยะทางสั้นๆ 26 กิโลเมตรจากถนนสาย 31 ผ่านชุมชนกิโลสิบถึงทางเข้าสนามบินเท่านั้น ที่ยังเป็นสองเลนส์ และการจราจรช่วงปกติก็หนาแน่นอยู่แล้ว พอช่วงมีเหตุการณ์แบบนี้ที่ไร ก็ยิ่งติดเข้าไปอีกหลายเท่า นอกจากนั้นก็น่าจะขยายอาคารผู้โดยสารสักหน่อย น้อยที่สุด หากสนามบินเมืองหลวงใช้การไม่ได้ ต้องสามารถสวิตช์มาที่อู่ตะเภาได้ทันทีแบบไม่มีปัญหา ฝากรัฐบาลทุกชุดลองคิดดูผมบ่นซะนาน แต่ทั้งหมดที่บ่นมายังไม่ถึงประเด็นที่จะกล่าวถึงจริงๆเลย เช้านี้ผมได้รับข่าวจากทวิตเตอร์ของ BBC อังกฤษ CNN อเมริกาว่า นายกรัฐมนตรีแบลุสโคนี่ของอิตาลี่ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากที่ประคองเก้าอี้ อาการร่อแร่ โคม่ามาหลายปีแล้ว แต่งานนี้ดูท่า พี่แบของชาวอิตาลี่ คงจะเริ่มเห็นเค้าลางอะไรบางอย่าง ของอนาคตประเทศรูปรองเท้าบู้ทนี้แน่ๆแล้ว จึงละทิ้งนาวา ปล่อยให้ประเทศเผชิญกรรมกันต่อไป แล้วนายกของอิตาลี่ลาออก แล้วเกี่ยวข้องกับไทยยังไง ถ้าท่านติดตามข่าวสารอยู่บ้าง ก็จะทราบว่า สถานะของประเทศกรีซตอนนี้นั้น เสี่ยงที่จะกลายเป็นประเทศล้มละลายซะเหลือเกิน กรีซเองก็เพิ่งได้นายกคนใหม่ก่อนหน้าอิตาลี่ไม่กี่วัน และปัจจุบันอียูเองก็พยายามประคับครองกรีซเต็มที่ไม่ให้ล้มละลาย แต่ก็ไม่รู้ว่ากรีซที่อยู่ในสถานะคนจะจมน้ำ จะพยายามพยุงตัว และช่วยตัวเองได้มากแค่ไหน ขืนตระบึงตระบันถีบนู่นถีบนี่จะพลอยเป็นทำให้คนช่วยช่วยลำบากยิ่งขึ้น อียูเองจะพลอยเจ็บตัว แต่ถ้าหากกร๊ซต้องล้มละลายจริงๆ อิตาลี่เองก็คงไม่รอดวิกฤตินี้เช่นกัน และแน่นอน ถ้ากรีซ อิตาลี่เดี้ยง ก็ไม่เหลือว่ายุโรปหลายประเทศก็จะพลอยโดนไปตามๆกัน กระทบหมดทั้งอียู และในที่สุด ก็หนีไม่พ้นเศรษฐกิจของอเมริกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่ออียูแย่ อเมริกาแย่ แล้วเราจะค้าขายกับใคร เอเชียเองก็จะพลอยแย่ไปด้วย
น้ำท่วมอย่างเดียว เราก็แย่สุดๆ ขอแค่ภาวนาว่าอย่าให้คนในชาติเราต้องว่างงานมากไปกว่านี้ก็พอ แต่นี่เราคงต้องลุ้นสุดๆ เอาใจช่วยกรีซ อิตาลี่สุดๆ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว หลังน้ำลด หากเราเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจเราเองเท่าไหร่ก็ตาม แต่เศรษฐกิจโลกไม่เป็นใจ ยังไง เราทุกคนก็คงต้องเผชิญชะตากรรม เหมือนเมื่อครั้งวิกฤติต้มยำกุ้งอย่างแน่นอน วิกฤติที่ผมยังจำได้ติดตาไม่ลืม ถึงวันนั้น ถ้าเราไม่เตรียมตัว รู้จักเก็บออม มีเงินทุนหมุนเวียนสักก้อน หลายๆชีวิตอาจทำใจยอมรับไม่ได้ จนไม่เป็น และอาจจะจบชีวิตแบบที่ยังไม่ถึงเวลาที่สมควรเอาง่ายๆ แต่ก่อนจะถึงวิกฤตินั้น หากเรามีสติ รู้ทัน เตรียมตัวพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน รู้จักจนเป็นตั้งแต่วันนี้ เก็บออมเงินฝากเผื่ออนาคตในวันที่วิกฤติ หรืออีกทางหนึ่ง คือเราหมุนโลกกลับไปสู่จุดเก่า ทำในสิ่งที่เราชำนาญกลับไปสู่เศรษฐกิจแบบพอเพียง วิถีชีวิตเกษตรกรรม ไม่ง้อฝรั่ง ไม่ง้อน้ำมันแขกได้ วันนั้น เราคงไม่ต้องแคร์กรีซ อิตาลี่ อเมริกา หรือโอเป็คอีกต่อไป สู้ๆ คนไทยที่น่ารักทุกคน
"จนอยู่อย่างจน ไม่มีวันจน!!!"

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น